The Arts and Crafts Movement
การแข่งกันออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ ‘สื่อสาร’ กับผู้บริโภค
The Arts and Crafts Movement brings people back to the conventional handicraft that doesn’t require factory manufacturing, which is gaining more popularity. The “likeness” of products made in the factory is not attracting people as much as it used to because people now care more about the uniqueness of products and the stories behind them.
Currently, collaboration is happening between craftsmen, designers and the industrial sector to promote and develop handmade products in terms of their quality, value and ability to provide memorable experiences and carry knowledge. For this reason, modern designers are competing to make products that can “communicate” with customers, in order to provide “well-crafted products” instead of just “products.”
The Arts and Crafts Movement ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนหันมาตระหนักว่า เราเคยมีงานฝีมือ ที่ผลิตได้โดยไม่ต้องอาศัยโรงงาน และค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น ความ ‘เหมือนกัน’ ของผลิตภัณฑ์จากโรงงานไม่ได้รับความนิยมเหมือนเคย และให้ราคากับความมีเอกลักษณ์เฉพาะ การได้ประสบการณ์จากเรื่องราวของการสร้างสรรชิ้นงาน
ในปัจจุบันจึงเกิดการร่วมมือกันระหว่างช่างฝีมือ นักออกแบบ การผลิตระดับอุตาสาหกรรม เพื่อการเติบโตและพัฒนาชิ้นงานต่างๆไปด้วยกัน ทั้งในแง่ของ คุณภาพ คุณค่า การสร้างประสบการณ์ การสืบสานความรู้และฝีมือ ส่งผลให้นักออกแบบผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ เกิดการแข่งกันออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ ‘สื่อสาร’ กับผู้บริโภค เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีและถี่ถ้วน (Well-crafted product) ไม่ใช่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ (Product) เท่านั้น
